สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เอมจะมาเล่าถึงประสบการณ์การทำศัลยกรรมจมูกครั้งแรกในชีวิตของเอมให้ทุกคนได้ชมกันค่ะ ซึ่งบอกเลยว่าเอมตื่นเต้นมากๆ ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าตัวเองจะใจกล้าทำศัลยกรรมเลยนะคะ แต่ก็นั่นล่ะ มาเล่าได้แบบนี้ก็ต้องทำเป็นผลสำเร็จแล้วอ่ะนะ โดยการทำศัลยกรรมจมูกในครั้งนี้เอมทำกับหมอณัฐที่ Goodwill Clinic สาขาสนามเป้าค่ะ เอมขอเล่าตั้งแต่วันที่เอมจะไปทำเรื่อยไปจนครบ 1 เดือนเต็มเลยนะคะ เผื่อว่าเพื่อนๆคนไหนที่กำลังตัดสินใจอยู่จะได้มีภาพประกอบการตัดสินใจเพิ่มขึ้นด้วยค่ะ
เอมถ่ายแบบคลิป VDO ให้ทุกคนได้ชมกันด้วยนะคะ เอมถ่ายเก็บทุกรายละเอียดเลยค่ะ เผื่อเพื่อนๆสนใจก็คลิกเข้ารับชมได้เลยนะคะ
ก่อนอื่น...เอมจะให้ทุกคนได้ชมภาพลักษณะจมูกก่อนการทำศัลยกรรมของเอมกันก่อนนะคะ คือเอมเป็นคนที่ไม่มีดั้งจมูกเลย เวลามองหน้าด้านข้าง โครงหน้าของเอมจะมีลักษณะคล้ายพระจันทร์เสี้ยวค่ะ คือมีหน้าผากนูน คางนูนรับกับหน้าผาก แต่ดั้งจมูกบุบลงไป ทำให้ใบหน้าดูไม่สมส่วนตามที่ควรจะเป็นค่ะ อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เอมอยากทำจมูกก็คือเอมโดนล้อเรื่องดั้งมาตลอดว่า ดั้งแบน ไม่มีดั้ง หลายๆคนก็จะบอกว่าถ้าทำจมูกจะสวยกว่านี้ นี่คือเหตุผลทั้งหมดที่ทำให้เอมตัดสินใจทำศัลยกรรมจมูกในครั้งนี้ค่ะ ซึ่งก่อนที่จะทำจมูกเราก็ต้องทราบเกี่ยวกับข้อควรปฏิบัติและข้อห้ามต่างๆก่อนนะคะ เพราะในเคสของเอมใช้เวลาเตรียมตัวก่อนทำประมาณ 1 เดือนเลยค่ะ โดยข้อห้ามต่างๆมีดังนี้ค่ะ
ข้อควรปฏิบัติ ก่อนเข้ารับการเสริมจมูก
- งดสูบบุหรี่ และทานเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด อย่างน้อย 1สัปดาห์ รวมไปถึง งดทานชา กาแฟ ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- งดทานยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ หรือยาคลายกล้ามเนื้อ งดทานวิตามิน อาหารเสริม หรือสมุนไพรทุกชนิด อย่างน้อย 1 สัปดาห์
เพื่อลดอาการฟกช้ำ หรือเลือดหยุดไหลช้า
- หากอยู่ในระหว่างการจัดฟัน ลูกค้าควรไปดึงฟัน ก่อนวันผ่าตัด อย่างน้อย 1สัปดาห์ และหลังทำงดดึงฟันเป็นเวลา 3เดือน
เพื่อป้องกันไม่ให้แผลหลังผ่าตัดมีปัญหา
- นอนหลับให้เพียงพอ ไม่น้อยกว่า 8ชั่วโมง
- หากมีอาการภูมิแพ้ มีน้ำมูก ควรทานยาลดน้ำมูก หรือแก้แพ้ Loratadine เพื่อควบคุมอาการ ไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการทำ
และทานต่อเนื่องหากมีอาการ ไม่ให้แผลมีความชื้นสะสม ซึ่งอาจทำให้แผลติดเชื้อได้
- ก่อนเข้ารับการผ่าตัด ไม่ควรปล่อยให้ท้องว่าง ควรทานอาหารรองท้อง อย่างน้อย1ชม. ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- ควรเตรียมความพร้อมด้วยการตัดขนจมูกให้เตียน เรียบร้อย ทั้ง2ข้าง เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการทำ
หากลูกค้ามีปัญหาเรื่องสายตา โปรดแจ้งให้เจ้าหน้าที่
- สำหรับผู้ที่มีปัญหา สายตา ควรใส่คอนแทคเลนส์ งดใส่แว่น อย่างน้อง 1 เดือน หรือใช้แว่นตาที่มีน้ำหนักเบาๆ แทนการใส่แว่นตาปกติ
เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจส่งผลให้รูปทรงหลังมีปัญหาหลังทำ

วันที่ 13 มีนาคม 2564 เวลาประมาณ 13.00น. เป็นเวลาที่เอมมีนัดทำศัลยกรรมที่ Goodwill Clinic ค่ะ เอมทำศัลยกรรมจมูกกับหมอณัฐวุฒิ กลั่นเรืองแสง หรือหมอณัฐ ที่สาขาสนามเป้านะคะ ก่อนที่เอมจะเข้ารับการทำศัลยกรรมเอมจะต้องทานอาหารมาให้อิ่มท้องเลยค่ะ อยากทานอะไรก็จัดเต็มได้เลย เพราะว่าถ้าหากเราท้องว่าง ตอนที่ทำศัลยกรรมแล้วยาชาไหลลงคออาจก่อให้เกิดการอาเจียนระหว่างทำได้ ซึ่งไม่เป็นผลดีกับใครเลยนะคะ ดังนั้นเพื่อป้องกันการเกิดปัญหานี้ควรทานอาหารมาให้อิ่มท้องอย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการทำศัลยกรรมด้วยค่ะ

มาถึงที่คลินิกแล้วก็ต้องทำการกรอกประวัติกันก่อนนะคะ เราก็กรอกตามข้อมูลจริงของเราเลย ในจุดนี้จะมีให้ระบุเรื่องการแพ้ยาด้วย ซึ่งเอมค่อนข้างจะให้ความสำคัญมากๆ เนื่องจากเอมแพ้ยา Augmentin ค่ะ แต่ว่าทางคลินิกใช้ยาตัวนี้กับผู้ที่ทำศัลยกรรมทุกคนเลย เพราะยาตัวนี้เป็นกลุ่มยาแก้อักเสบที่มีฤทธิ์ครอบคลุมมากกว่ายาแก้อักเสบตัวอื่นๆ ดังนั้นหากใครแพ้ยาตัวเดียวกันกับเอมกรอกข้อมูลเสร็จก็ควรย้ำกับทางเจ้าหน้าที่อีกครั้งนึงนะคะ หลังจากกรอกข้อมูลเสร็จเอมก็ต้องไปเตรียมตัวตัดขนจมูก ฉีดยาแก้อักเสบต่างๆ ซึ่งขั้นตอนนี้เอมไม่ได้ถ่ายให้ดูเพราะไม่สะดวกต้องขออภัยด้วยนะคะ
หลังจากนั้นเอมก็ต้องมาล้างหน้าด้วยน้ำยาล้างหน้าฆ่าเชื้อของทางคลินิกค่ะ เอมจะต้องล้างทั้งหมด 3 รอบ เครื่องสำอางที่ประโคมมาหนักหนาแค่ไหน น้ำยาตัวนี้ล้างออกได้หมดจดเลยค่ะ ขั้นตอนนี้จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลในการล้างเพื่อความสะอาดหมดจดด้วยจ้า
หลังจากล้างหน้าและซับหน้าเรียบร้อย เอมก็จะมานั่งรอเวลาเข้าห้องผ่าตัดกับน้องหมียักษ์ตรงนี้ค่ะ ส่วนบันไดนั่นคือทางเดินขึ้นไปห้องผ่าตัดค่ะ ระหว่างรอเอมขอเม้าท์คลินิกนิดนึงนะคะ เอมสังเกตตั้งแต่จุดคัดกรองแล้วค่ะ จนเอมเดินเข้ามาในคลินิกว่ามีความสะอาดมากๆ
ในระหว่างนั่งรอกับน้องหมี เอมก็เห็นคนที่ทำศัลยกรรมไปแล้ว บางคนก็มาตัดไหม บางคนก็มาพบหมอ บางคนก็รอทำจมูกเหมือนเอม ซึ่งมันทำให้เอมยิ่งมั่นใจเพิ่มเข้าไปอีกว่าที่ Goodwill Clinic จะต้องทำทรงออกมาได้สวยมากแน่นอนค่ะ ไปค่ะ..ตอนนี้คุณหมอเรียกตรวจก่อนเข้าห้องผ่าตัดแล้ว ไปพบคุณหมอกันค่ะ
นี่คือคุณหมอณัฐวุฒิ กลั่นเรืองแสง ศัลยแพทย์ที่จะทำการผ่าตัดให้เอมค่ะ คุณหมอได้ประเมินโครงหน้าของเอมก่อนเลย แล้วก็ถามว่าเอมอยากได้จมูกทรงไหน แล้วมีปัญหาอะไรที่เป็นกังวลบ้าง เอมตอบไปว่าเอมอยากได้ทรงสโลปปลายพุ่งแบบสาวเกาหลี เพราะเอมดูรีวิวมาคิดว่าทรงนี้น่าจะเหมาะกับเคสจมูกสั้นเนื้อน้อยแบบเอม ส่วนสิ่งที่กังวลคือรูจมูกทั้ง 2 ข้างของเอมไม่เท่ากัน พอคุณหมอได้ฟังดังนั้นถึงกับถอนหายใจเลยค่ะ คุณหมอบอกว่ารูจมูกที่ไม่เท่ากันเป็นผลมาจากการเรียงตัวของฟันเอมที่มันเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ สามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟันเท่านั้นก็จะทำให้รูปฟันและใบหน้ารวมถึงรูจมูกทั้ง 2 ข้าง สมส่วนและดูเท่ากันมากขึ้น

บอกตรงๆว่าตอนนั้นหน้าเสียมาก เพราะเรามั่นใจมากว่าเราเลือกทรงมาเข้ากับหน้าเราแล้วนะ แต่คุณหมอให้เหตุผลไว้แบบนี้ค่ะ เนื่องจากเอมเป็นคนที่มีกระดูกเบ้าตาและหน้าผากที่ยื่นออกมาเยอะมาก อีกทั้งคางที่ยื่นออกมารับกับหน้าผากแบบพอดีแล้ว แต่สิ่งที่ต้องแก้ไขเพิ่มก็คือเราจะทำอย่างไรก็ได้ให้ช่วงดั้งจมูกที่มันบุบอยู่โด่งขึ้นมารับกับหน้าผากและคางได้พอดี ซึ่งทรงจมูกที่เอมเลือกมามันไม่ได้แก้ไขจุดบกพร่องของเอมในจุดนี้เลยค่ะ มิหนำซ้ำยังเน้นความดั้งแบนของเอมให้เด่นชัดมากขึ้นไปอีกด้วย
คุณหมอจึงเสนอว่าการที่ทำให้ดั้งโด่งที่สุดเพื่อให้รับกับหน้าผากและคางพร้อมกับเหลาแท่งซิลิโคนให้ดูเรียวเล็กจะทำให้ใบหน้าของเอมดูสมส่วนมากกว่า ซึ่งพอคุณหมอบอกดังนั้นเอมก็เชื่อคุณหมอเลยค่ะ เอาตามแผนที่คุณหมอมองและประเมินไว้เลย เพราะเอมเชื่อในฝีมือและประสบการณ์ของคุณหมอที่ผ่านเคสมามากกว่าหมื่นเคสว่าจะต้องทำออกมาได้ดีและสมส่วนกับใบหน้าเอม ซึ่งได้ข้อสรุปดังนี้ เอมก็ทานยาแก้ปวดและแก้อักเสบแล้วก็เข้าห้องผ่าตัดเลยค่ะ
ก่อนลงมือผ่าตัดคุณหมอก็ฉีดยาชาให้เอมก่อนเลยค่ะ แต่เคสของเอมโดนยาชาไปหลายเข็มอยู่เพราะคุณหมอฉีดไปแล้วมันไม่ชาสักที คุณหมอบอกว่าเคสของเอมแปลกมากเพราะปกติคนไข้ท่านอื่นเวลาที่หมอฉีดยาชาลงไปก็จะชาแทบทั้งหน้าแล้ว แต่ขอเอมกลับไม่ชา แถมยังต้องฉีดซ้ำไปในจุดที่ฉีดยาชาไปแล้วด้วย จำได้ว่าเอมโดนฉีดยาชาที่
- ข้างจมูกขวา 1
- ข้างจมูกซ้าย 1
- หน้าผาก 1
- ปลายจมูก 1
- ดั้งจมูก 1
- รอยต่อรูจมูกกับปากขวา 1
- รอยต่อรูจมูกกับปากซ้าย 1
- แล้วก็ฉีดย้ำที่ รอยต่อรูจมูกกับปากขวา อีก 1 (เพราะมันชาไม่เท่ากันค่ะ)
นี่คือปริมาณยาชาที่เอมโดนฉีดค่ะ จังหวะที่จิ้มเข็มแรกข้างจมูกขวาคือเจ็บนะ แต่เป็นเจ็บที่ทนได้ ฟีลความเจ็บเหมือนเราฉีดยาถอนฟันนั่นล่ะ คล้ายๆกัน จากนั้นเข็มต่อๆไปก็เริ่มไม่เจ็บแล้ว สบายๆ ระหว่างรอยาชาออกฤทธิ์ คุณหมอก็เริ่มไปวัดไซส์ซิลิโคน เอมได้ยินเสียงคุณหมอเหลาซิลิโคนอยู่ข้างๆหูด้านขวาเลยค่ะ จังหวะนั้นก็ใจเต้นรัวมากๆ แต่ก็ภาวนาว่ามันต้องออกมาดี ไม่มีปัญหาอะไร ในเคสของเอมต้องมีการตะไบกระดูกด้วยนะคะเพราะเนื้อค่อนข้างน้อย ถ้าไม่ตะไบจะใส่ซิลิโคนไม่ได้ ซึ่งช่วงนี้ก็ชิลล์ๆ ได้ยินเสียงครืด คราด นิดหน่อยจนเวลา 1ชั่วโมง 45 นาทีผ่านไป เอมก็ทำจมูกเสร็จเรียบร้อยค่ะ ลงมาจากห้องผ่าตัดก็รับยาแล้วก็กลับบ้านได้เลยค่ะ
หลังจากกลับมาถึงบ้าน นี่คือสภาพหลังจากทำศัลยกรรมจมูกเสร็จค่ะ ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่าให้เอมนับเป็นวันที่ 0 ซึ่งวันนี้เอมกลับถึงบ้านก็ประคบเย็นทันทีเลย
- ห้ามทานของแสลง ปลาร้า อาหารทะเล ของหมักดอง แอลกอฮอล์ บุหรี่งด 1 เดือนเต็ม
- ห้ามล้างหน้า 5 วันใช้โทนเนอร์หรือทิชชู่เปียกไปก่อน
- ห้ามให้น้ำเข้าแผล
- เวลานอนต้องใส่หมอนล็อกคอไว้ตลอดเลยค่ะ การนอนจะต้องใช้วิธีนั่งนอนเท่านั้นคือทำมุม 45 องศากับที่นอนเท่านั้น ประมาณ 4-5 คืน แต่หมอนล็อกคอต้องใส่จนครบ 1 เดือน
- ห้ามนอนตะแคง 1 เดือน
- ห้ามใส่แว่น 1 เดือน
- งดออกกำลังกายทุกชนิด 1 เดือน ห้ามวิ่ง กระโดด ตีเทนนิส 3 เดือน
ข้อห้ามก็จะมีประมาณนี้ ตอนแรกเอมคิดว่าต้องแย่แน่เลย ทำไม่ได้หรอก แต่เราก็คิดว่าถ้าเราอยากสวย อยากมีดั้งก็ต้องทำให้ได้ ท่องไว้ ท่องไว้ ต้องทำให้ได้
14 มีนาคม 2564 วันที่ 1 หลังการทำศัลยกรรมจมูก แม่เจ้า!!! ตื่นเช้ามา "อวตาร" มาแล้วจ้า แล้ววันนี้เอมมีนัดกับม๊าแล้วก็อี๊เอาไว้ว่าจะไปไหว้เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวที่เยาวราชด้วยนะ แต่การที่เอมไปทำจมูกในครั้งนี้เอมไม่ได้บอกป๊ากับม๊าหรือแม้กระทั่งน้องสาวของเอมเลย มีเพียงสามีและลูกๆเท่านั้นที่รู้ ซึ่งตื่นเช้ามาเอมอาบน้ำ เช็ดหน้าเสร็จก็เดินไปมอบตัวแต่โดยดี ในใจคิดว่าฉันต้องโดนด่าหูฉีกแน่ๆ แต่ไม่เป็นดังนั้นค่ะทุกคน ม๊าไม่ด่า ป๊าก็ไม่ว่า แต่กลับชมอีกต่างหากว่าหมอทำทรงสวยมากรับกับหน้าดี ป๊าบอกอีกว่าอยากให้ไปทำนานแล้ว แต่ก็กลัวหนูเจ็บ งื้อ!!! หนูก็ใจเสียแทบแย่คิดว่าโดนด่าแน่ๆ สรุปคือนัดที่จะไปไหว้เจ้าแม่ในส่วนของเอมก็ต้องล้มเลิกไปให้ม๊ากับอี๊ไปแทนค่ะ
แต่วันนี้สิ่งที่เอมต้องไปทำคือเอมไม่สะดวกไปคลินิกจึงต้องไปที่โรงพยาบาลแถวบ้านเพราะคุณหมอให้ยามาฉีดด้วยค่ะ โดยต้องฉีดผ่านน้ำเกลือเข้าเส้นเลือด เป็นยาฆ่าเชื้อกับแก้อักเสบนั่นเองจ้า
15 มีนาคม 2564 วันที่ 2 หลังการทำศัลยกรรมจมูก วันนี้เอมรู้สึกว่ามีหน้าตาคล้าย "สล็อต" ล่ะ มีความบวมที่แก้ม แล้ววันนี้เอมก็พาหน้าตาบวมๆแบบนี้ออกไปทานข้าวที่ห้างด้วยนะ โอ้โห!!! ไม่ต้องพูดถึงสายตาที่มองเลย จ้องกันไม่ได้วางตาเลยล่ะ บางคนก็ซุบซิบๆ บางคนก็มองนิ่งๆ แต่ก็นั่นล่ะ เราไม่สนใจเลย ก็เราหิวง่ะ
นี่คือรูปภาพยืนยัน เป็นไง!!! หน้าเราวันนี้เหมือนสล็อตมั้ย 55555+
16 มีนาคม 2564 วันที่ 3 หลังการทำศัลยกรรมจมูก วันนี้เอมเริ่มมีรอยช้ำที่เกิดจากการตะไบจมูกนิดๆ มันจะเป็นรอยสีเหลืองๆ แต่รอยช้ำนี้เอมไม่ได้มีความเจ็บปวดอะไรเลยนะคะ ปกติทุกอย่าง วันนี้ก็ยังคงออกไปทานข้าวนอกบ้านเหมือนเดิม แต่เอมว่าหน้าวันนี้จะมีความบวมคล้ายหมั่นโถวล่ะ ก็ยังคงทานยาตามที่คุณหมอสั่งเป๊ะๆและครบทุกมื้อเลยค่ะ
17 มีนาคม 2564 วันที่ 4 หลังการทำศัลยกรรมจมูก วันนี้จะสังเกตเห็นรอยช้ำสีเหลืองๆได้ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งเอมก็ย้ำคำเดิมนะคะว่าไม่ได้มีอาการเจ็บปวดอะไรสักนิดเลย ก็ยังคงทานยาปกติค่ะ
18 มีนาคม 2564 วันที่ 5 หลังการทำศัลยกรรมจมูก วันนี้จะยิ่งเห็นรอยช้ำสีเหลืองชัดเจนมากยิ่งขึ้นแล้วก็วันนี้ครบ 5 วันพอดี ซึ่งวันนี้เอมจะต้องเริ่มทำการล้างแผลในรูจมูก โดยการใช้สำลีก้อนฉีกแบ่งแล้วก็ชุบน้ำเกลือให้ชุ่ม จากนั้นก็ยัดเข้าไปในรูจมูก ไม่แนะนำให้ใช้คอตตอนบัดนะคะ เพราะอาจจะทำให้ไหมหลุดได้ค่ะ แล้ววันนี้เอมก็เริ่มล้างหน้าด้วยนะคะ ซึ่งเอมไม่ได้ถ่ายถาพมาให้ดู แต่เอมถ่ายเอาไว้เป็น VDO ทุกคนก็สามารถคลิกชม VDO ใน Youtube ของเอมได้เลยค่ะ บอกไว้แบบละเอียดยิบเลยล่ะ
19 มีนาคม 2564 วันที่ 6 หลังการทำศัลยกรรมจมูก วันนี้ยังมีรอยช้ำอยู่แต่เอมรู้สึกว่ามันจางลงมากกว่าเมื่อวานค่ะ ไม่รู้เพราะว่าเราได้ล้างหน้าหรือเปล่านะคะ แต่ก็นั่นล่ะ โดยรวมก็ปกติดี ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ
20 มีนาคม 2564 วันที่ 7 หลังการทำศัลยกรรมจมูก ครบ 7 วันแล้ว คุณหมออนุญาตให้เอมแต่งหน้าได้ เย้ๆๆๆๆ แต่เอมก็ไม่ได้แต่งหน้าเยอะหรอกนะคะ รอยช้ำยังคงมีอยู่แต่เครื่องสำอางก็กลบให้จางลงไปเยอะเหมือนกัน แล้ววันนี้เอมกับครอบครัวก็ไปเที่ยวฉลองจมูกครบ 7 วันด้วย ก็ไปนั่งกินอาหารกันแต่เอมยังคงทานของแสลงไม่ได้นะคะก็ทานได้แต่หมุกับไก่เหมือนเดิมค่ะ ผ่านมา 7 วันแล้วเอมรู้สึกพอใจกับทรงจมูกของเอมมากๆเลยล่ะ
22 มีนาคม 2564 วันที่ 9 หลังการทำศัลยกรรมจมูก วันนี้ได้สระผมครั้งแรกหลังจากทำจมูกแล้วเอมก็ลองแต่งหน้าแบบจัดเต็มสไตล์เอมดูค่ะ ก็รู้สึกว่าแต่งหน้าได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องเหลาดั้งจมูกเยอะๆเหมือนเมื่อก่อนด้วย ตอนนี้ก็ยุบบวมลงไปเยอะมากๆ ยังไงก็ยังต้องรอผล 14 วัน และ 1 เดือนอีกครั้งนึงค่ะ ว่าจะยุบเข้าที่แล้วได้ทรงสวยมากแค่ไหน
23 มีนาคม 2564 วันที่ 10 หลังการทำศัลยกรรมจมูก วันนี้รอยช้ำสีเหลืองจางลงไปมาก เวลามองหน้าตรงถ้าไม่สังเกตก็แทบจะไม่เห็นค่ะ โดยรวมปกติดีค่ะ
24 มีนาคม 2564 วันที่ 11 หลังการทำศัลยกรรมจมูก วันนี้รอยช้ำสีเหลืองจางลงไปจนเวลามองหน้าตรงไม่เห็นรอยช้ำแล้วค่ะ แต่มองด้านข้างยังคงเห็นสีเหลืองจางๆนะคะ ทุกอย่างปกติดี ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ
25 มีนาคม 2564 วันที่ 12 หลังการทำศัลยกรรมจมูก วันนี้เอมลองสระผมแบบก้มศรีษะค่ะ ซึ่งก็พอสระได้นะ แต่ได้แป๊บนึงก็ต้องเงยหน้าสระอยู่ดี หลังสระผมแบบก้มนิดๆแล้วทรงจมูกก็ปกติดี ไม่มีอะไรค่ะ ที่เอมต้องสระผมให้สะอาดหมดจดในวันนี้เพราะวันพรุ่งนี้เอมจะต้องไปตัดไหมนั่นเองค่ะ แต่ว่าเอมไม่ได้ถ่ายรูปให้ได้ชมกันนะคะ เพราะภาพค่อนข้างหวาดเสียว แต่เอมถ่ายเป็น VDO แทนก็เอาเป็นว่าใครอยากชมก็คลิกลิ้งดูใน Youtube ของเอมได้เลยจ้า
27 มีนาคม 2564 วันที่ 14 หลังการทำศัลยกรรมจมูก แล้วก็ตัดไหมเป็นที่เรียบร้อย ทุกอย่างปกติดี ยาทานจนหมดแล้ว ครบทุกมื้อไม่มีขาด รอยช้ำหายไปหมดแล้ว แผลแห้งดี ไม่มีปัญหาอะไรสักอย่าง ตอนนี้ก็รอครบ 1 เดือนเพื่อพบคุณหมอและตรวจดูทรงจมูกอีกครั้งค่ะ
3 เมษายน 2564 วันที่ 21 หลังการทำศัลยกรรมจมูก วันนี้เอมรู้สึกตกใจมากเพราะปลายจมูกของเอมค่อนข้างแดงแบบเห็นได้ชัดเจนเลย ตอนแรกเอมนึกว่าจมูกของฉันมีปัญหาแน่เลย ก็รีบร้อนไลน์หาเจ้าหน้าที่คลินิก แต่เอมก็ลืมไปว่าตัวเองได้ใส่เนื้อเยื่อเทียมรองปลายจมูกกันซิลิโคนทะลุ แล้วก่อนออกจากคลินิกวันที่ทำจมูกเจ้าหน้าที่ก็แจ้งแล้วว่าเมื่อเวลาผ่านไปอาจจะมีอาการแดงที่ปลายจมูกได้เพราะเส้นเลือดฝอยจะพยายามรวมเนื้อเยื่อเทียมให้กลายเป็นเนื้อเยื่อของเรา พูดง่ายๆคือมีการหล่อเลี้ยงของเส้นเลือดบริเวณเนื้อเยื่อเทียมรองปลายจมูกนั่นเอง เอมได้ฟังดังนั้นก็สบายใจ เพราะอาการโดยรวมของเอมไม่มีเจ็บอะไรเลย ลูบปลายจมูกก็ไม่เสียวปลายแต่อย่างใด แค่มันแดงเท่านั้นเอง
นี่คือภาพวันที่ปลายจมูกแดง ขอบคุณที่ไม่โฟกัสรรอยคล้ำใต้ตาและรูขุมขนที่กว้างหยั่งกับหลุมบนดวงจันทร์ของฉัน 5555+ แต่ทุกอย่างก็ปกติดีนะ จนเวลาล่วงเลยผ่านไป ครบ 1 เดือน
13 เมษายน 2564 ครบ 1 เดือน หลังการทำศัลยกรรมจมูก และแล้ววันที่รอคอยของเอมก็มาถึง วันนี้เอมจะได้กินของแสลงทุกอย่างที่เอมชอบ ทั้งปลาร้า อาหารทะเล ของหมักดองทุกอย่าง วันนี้ฉันจะทานได้แล้ว แต่...เอมยังไม่ได้หาหมอเลยนะ เพราะช่วงนี้เป็นวันสงกรานต์พอดี จะได้พบหมออีกที วันที่ 19 เมษายน โน่นเลย แต่ทรงจมูกโดยรวมโอเคขึ้นนะ เริ่มรัดแกนและเห็นทรงชัดเจนขึ้นแล้ว หลายๆคนชมว่าทรงนี้เหมาะกับหน้าเอมมากๆ ก็ต้องยกความดีความชอบให้คุณหมอล่ะจ้าที่ตัดสินใจเลือกทรงนี้ให้เอม ดีแล้วที่เอมเชื่อคุณหมอ ไม่ยอมเอาความคิดตนเองเป็นใหญ่ ไม่งั้นก็คงไม่ได้ทรงจมูกสวยๆที่รับกับใบหน้าแบบนี้หรอกค่ะ
1 เดือนผ่านไป พอแต่งหน้ามาก็จะดูคมๆหน่อย แต่โดยรวมเอมชอบมากๆเลยนะคะ แต่งหน้าก็ง่ายขึ้น หน้าดูเปลี่ยนไปเยอะเลยค่ะ
เอมได้รวบรวมภาพการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดในช่วงที่เอมพักฟื้นให้ได้ชมด้วยอันนี้จะเป็นภาพหน้าตรงค่ะ
ส่วนอันนี้จะเป็นภาพที่เอมหันหน้าทางด้านขวาค่ะ
ส่วนอันนี้จะเป็นภาพที่เอมหันหน้าทางด้านซ้ายค่ะ ซึ่งในแต่ละวันพัฒนาการของการลดบวมก็จะแตกต่างกันไปอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งหลายคนบอกว่าเอมโชคดีมากที่ทำครั้งแรกแต่ก็บวมน้อยมากๆ จริงๆเอมจะบอกว่าที่เอมบวมน้อยเพราะคุณหมอมือเบามากๆต่างหากล่ะ ถ้าคุณหมอมือหนัก ทึ้งเอมแรงๆหรืองัดดั้งเอมแรงๆ เอมก็มีบวมเหมือนกันล่ะค่ะ โชคดีที่คุณหมอมือเบาจ้า มาถึงตรงนี้ทุกคนก็คงอยากรู้แล้วล่ะสิว่าศัลยกรรมจมูกครั้งนี้ของเอมมีค่าเสียหายเท่าไหร่ เอมต้องบอกก่อนเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันนะคะ ว่าในเคสของเอมเป็นเคสที่จมูกสั้น เนื้อน้อยมากๆ ดังนั้นเอมก็เลยเลือกทำเป็นแบบแพคเกจเพื่อความสะดวกเผื่อว่าตอนทำจริงๆมีตรงไหนต้องเพิ่มเติมก็จะได้รวมไปในแพคเกจที่เอมเลือกเลย
โดยแพคเกจที่เอมเลือกนี้คือ ศัลยกรรมจมูก ราคา 45,000 บาท (รับประกัน 1 ปี) เป็นแพคเกจที่เหมาะสำหรับ เคสจมูกโต ,จมูกสั้น เนื้อน้อย ที่ต้องการปรับโครงสร้างให้จมูกดูยาวและเล็กเรียวแบบเอมโดยเฉพาะ ซึ่งในแพคเกจนี้ก็จะรวม
- ซิลิโคนImplant grade Mantis หรือ VIP (นิ่มพิเศษ)
- เย็บ interdome
- เลาะไขมันปลายจมูก
- ตัดแต่งกระดูกอ่อนปลายจมูก
- ตัด ตอกกระดูก
- รองปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อเทียม(แท่ง) หรือ กระดูกอ่อนหลังหู
- TnR mesh strut ยืดผนังกั้นยกปลายจมูก
- ค่ายา 1,000 บาท
- หมอนรองคอ และ อบ Omega light ลดบวม
ซึ่งในเคสของเอมมีปัญหาไม่มากแต่อยู่ในเคสเนื้อน้อยและจมูกสั้นก็จะทำแค่
- ซิลิโคนImplant grade Mantis หรือ VIP (นิ่มพิเศษ)
- เย็บ interdome
- รองปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อเทียม(แท่ง) หรือ กระดูกอ่อนหลังหู
- ค่ายา 1,000 บาท
- หมอนรองคอ และ อบ Omega light ลดบวม
ซึ่งเอมพอใจกับทรงจมูกที่คุณหมอออกแบบให้เอมมากๆ ตอนนี้ใบหน้าของเอมก็สมส่วนแล้ว พอใจกับจมูกทรงนี้ของเอมมากๆเลยค่ะ แต่อีกสิ่งที่คุณหมอเสนอให้ทำเพิ่มถ้าเอมสามารถทำได้ นั่นคือเรื่องการจัดฟัน เติมฟิลเลอร์และฉีดโบท็อกใบหน้าก็จะสวยสมบรูณ์แบบมากยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ ตอนนี้ก็ให้จมูกได้พักก่อนส่วนอื่นๆเดี๋ยวค่อยว่ากันต่อไปจ้า
หวังว่าทุกคนจะชอบกับรีวิวเปิดประสบการณ์ในการทำศัลยกรรมจมูกครั้งแรกของเอมนะคะ ขอบคุณสำหรับการติดตามรับชมค่ะ ส่วนใครสนใจอยากสอบถามข้อมูลที่คลินิกเพิ่มก็สามารถติดต่อไปได้ตามลิ้งด้านล่างนี้เลยนะคะ
ช่องทางติดตามข่าวสาร
Instagram : @goodwillclinic
Line@ : @goodwillclinic
ข้อมูลการจองรับบริการ สาขาสนามเป้า กรุงเทพ
1011/3 ถ.พหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท
กรุงเทพมหานคร 10400
เบอร์โทร 089-429-6656
Line : @goodwillclinic
เปิดให้บริการ 10.00 น.-19.00 น.